หวานปนห้าว อรไท ดุรงค์พิศิษฎ์กุล

image



จริงๆ แล้วนิสัยเพชรค่อนข้างห้าว เวลาทำงานจะจริงจังและดุด้วยซ้ำ แม้จะออกตัวอย่างไร แต่ด้วยใบหน้าหวานหยด บวกชุดประโปรงลายดอกไม้ ไหนจะสมุดบันทึกลายฮัลโหลคิตตี้แสนจะคิกขุในมือเธอนั่นอีกละ... จะไม่ให้สรุปว่า อรไท ดุรงค์พิศิษฏ์กุล หรือเพชร เป็นสาวหวานได้อย่างไรไหว


อรไท เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลดุรงค์พิศิษฏ์กุล จบการศึกษาปริญญาตรีและโทสาขาการบัญชีต้นทุน จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และจบด้านอัญมณีศาสตร์ด้านการตรวจสอบคุณภาพเพชร จากสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา หรือจีไอเอ เธอได้รับการเคี่ยวกรำงานด้านอัญมณีมาตั้งแต่เยาว์วัย ทั้งงานผลิต การออกแบบ การคำนวณราคา ฯลฯ ก่อนจะนั่งแท่นเป็นผู้ควบคุมการผลิต อัญมณีชื่อดังอย่าง จิ้งเต็กโล้ง ในวันนี้


คติประจำใจ : ด้วยความเป็นสมาชิกในตระกูลใหญ่เชื้อสายจีน ทำให้ลูกหลานผู้หญิงอย่างอรไทต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เธอยึดคติ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด โดยได้คุณสมบัติเรื่องของความละเอียดรอบคอบมาจากคุณพ่อ และใจสปอร์ตอย่างผู้เป็นแม่ แต่อรไทกระซิบว่าเธอนั้นมีดีกรีเรื่องความดุมากกว่าเล็กน้อย ทำให้สามารถควบคุมคนงานหลายสิบชีวิตได้อย่าง




ฮัลโหลคิตตี้ : เป็นการ์ตูนแมวที่คลาสสิกและมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่อรไทปิ๊งมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์แล้ว ทุกวันหลังเลิกเรียนเธอจะต้องแวะร้านกิฟต์ช็อปที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนลายแมวน้อยสีชมพูวางขายอยู่มากมาย จึงเริ่มซื้อเริ่มเก็บมาตั้งแต่ตอนนั้น จนเดี๋ยวนี้ข้าวของเครื่องใช้ในห้องทำงานเกือบทุกอย่างจะต้องมีลวดลายของเหมียวคิตตี้ประกอบอยู่ 

 เป็นเคล็ดลับความสุขและความผ่อนคลายอย่างหนึ่งของเพชรก็ว่าได้ เวลาทำงานเครียด ๆ หรือคุยงานกับลูกค้าแล้วหันมาเห็นคิตตี้หน้าตาน่ารัก ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้อย่างอัตโนมัติค่ะ

เครื่องประดับ : เพราะเป็นทายาทที่รับช่วงกิจการ "จิ้งเต็กโล้ง" ซึ่งลือเลื่องเรื่องคุณภาพอัญมณีมานานกว่า 70 ปี ทำให้อรไทกลายเป็นพรีเซนเตอร์กลาย ๆ ของแบรนด์ ทุก ๆ วันเธอจะต้องตบแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับชิ้นเก๋ เวลาลูกค้าเห็นสร้อย ต่างหู แหวน สวย ๆ อยู่บนตัวคนสวยก็จะชอบใจแล้วนึกอยากใส่เหมือนบ้าง.....


"เพชรชอบเครื่องประดับที่ดีไซน์เรียบ ๆ เพราะสามารถเข้ากันได้กับชุดหลายแบบ แต่ก็ต้องแอบเก๋นิด ๆ สามารถประยุกต์ได้ไม่เบื่อ ตัวอย่างเช่น แหวน สามารถอดออกเป็น 2 วง เอาไปใส่รวมกับวงอื่น ๆ ได้ด้วย พอลูกค้าหรือเพื่อนเห็นแล้วชอบก็จะสั่งทำกัน"


แหวนพิรอด : เป็นแหวนนพเก้าทรงพิรอดซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่ภายในร้านจิ้งเต็กโล้งนั่นเองนับเป็นวัฒนธรรมเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก และอรไทก็มีติดตัวไว้ 1 วง ด้วยความอุ่นใจว่าแหวนน่าจะช่วยให้เจ้าของ "รอด" ปลอดภัยสมชื่อ แถมบุษราคัมที่ประดับอยู่ก็น่าจะช่วยให้กิจการการค้าของเธอรุ่งเรืองด้วยวิตามินเสริม : ปีนี้อรไทอายุ 34 ปีแล้วแต่หน้ายังเอ๊าะใสจนสาวแรกรุ่นบางคนต้องหลบฉาก เธอแอบกระซิบเคล็ดลับความงามที่ทำเป็นกิจวัตรไม่ขาดคือ การรับประทานวิตามินเสริม (ที่บรรจุอยู่ในกล่องลายฮัลโหลคิตตี้สุดน่ารัก) วันละ 4 เม็ด ได้แก่ โคเอนไซม์คิวเทน บำรุงผิวพรรณ กลูต้า ป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ แคลเซียม เสริมสร้างกระดูกและฟัน และวิตามินซี 

          "กินมานานเกือบ 3 ปีแล้ว รู้สึกเลยว่าสุขภาพดีขึ้นแถมยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งด้วยค่ะ"สมุดบันทึก : ถึงแม้จะมีพีดีเอ เป็นอุปกรณ์ไฮเทคช่วยบันทึกข้อมูลบางอย่างได้ง่าย ๆ แต่อรไทก็ยังชอบใจที่จะจด จด และจดเรื่องราวและเหตุการณ์ในแต่ละวันลงสมุดบันทึกขนาดถนัดมือด้วยปากกาหลากสี (ทั้งสมุดและปากกาเป็นลายฮัลโหลคิตตี้อีกแล้ว)

          "เพชรว่าการที่เราจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ ไว้เป็นประโยชน์มากทั้งต่อเรื่องานและการใช้ชีวิตอย่างเวลาไม่สบายไปหาหมอก็จะเอาสมุดบันทึกมาอ่านดูว่าเราเคยป่วยแบบนี้ไหม อาการเป็นอย่างไร"กล้องส่องเพชร : เป็นแม่ค้าขายเพชรแน่นอนว่าไม่ว่าจะอยุ่ที่ทำงานหรืออกไปไหนมาไหน อรไทต้องมีกล้องส่องเพชรหรือลูป พ่วงติดไปด้วยเสมอ

          "ถ้าไม่มีลูปนี่...เพชรจะเหมือนคนตาบอดเลยนะ (หัวเราะ) ต้องพกไว้ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะลูกค้ามักเอาเพชรมาให้เราวัดขนาดตีราคาตลอด"มงคลชีวิต : ออกตัวว่าเป็นสาวห้าวอย่างนี้เถอะ แต่ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไร อรไทเป็นต้องแวะไปสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร เสมอ จนพระอาจารย์เมตตามอบของมงคลให็เก็บรักษาไว้กับตัว เป็นพระมหาธาตุส่วนพระโลหิตของสมเต็ดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแม้จะมีขนาดเล็กมากจนแทบมองด้วยตาเปล่าไม่เห็ฯ แต่อรไทก็ถือว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของเธอที่มีโอกาสได้เก็บไว้